
การใช้ Influencer ในการทำการตลาดออนไลน์สำหรับคลินิกความงาม เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ และได้ผลดีอย่างมาก เนื่องจากโดยทั่วไปแล้ว ผู้ใช้บริการคลินิกความงามมักจะต้องการความไว้ใจ และคุณภาพสูงสุดในการดูแลรักษาผิวพรรณ ร่างกายของตนเอง ดังนั้นการมี Influencer ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความงามในสังคมออนไลน์มาช่วยส่งเสริม และแนะนำผลิตภัณฑ์ความงามหรือบริการของคลินิกความงามนั้น จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ และเป็นกลางในการสร้างความนิยม และความไว้วางใจของผู้ติดตาม
นอกจากนี้ การใช้ Influencer ยังช่วยเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าใหม่โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้สื่อโซเชียลที่มีไลฟ์สไตล์ที่เกี่ยวข้องกับคลินิกความงาม การมี Influencer ที่มีผู้ติดตามจำนวนมากมาโพสต์รูปภาพหรือวิดีโอเกี่ยวกับบริการของคลินิกความงามนั้น จะช่วยสร้างความตื่นเต้น และสร้างความสนใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นๆ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสในการแปลงผู้ติดตามเป็นลูกค้าจริงๆ
Influencer จะมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งทำให้ผู้ติดตามมีความเชื่อถือในคำแนะนำ และคำแนะนำที่ได้รับจาก Influencer นั้น นอกจากนี้ การมี Influencer ใช้สื่อสังคมออนไลน์ยังช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคลินิกความงาม ซึ่งอาจช่วยเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น และเป็นการลดความเสี่ยงในการลงทุนในการตลาดวิธีอื่นๆที่อาจไม่ได้ผลมากนัก
อย่างไรก็ตาม ในการเลือกใช้ Influencer ในการทำการตลาดออนไลน์คลินิกความงาม จำเป็นต้องพิจารณาด้านความเหมาะสมของ Influencer กับกลุ่มเป้าหมายของคลินิกความงาม โดยต้องมีการวิเคราะห์ผู้ติดตาม รวมถึงพฤติกรรมการใช้สื่อโซเชียลอย่างละเอียด นอกจากนี้ คลินิกความงามยังต้องระบุเป้าหมาย และแผนกลยุทธ์การตลาดอย่างชัดเจนก่อนการใช้ Influencer เพื่อให้การตลาดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และได้ผลอย่างมากที่สุด

ประเภทของ Influencers ที่แบ่งตามจำนวนผู้ติดตาม สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทดังนี้
1. Mega Influencers
เป็น Influencers ที่มีจำนวนผู้ติดตามมากมาย ตั้งแต่ 1,000,000 คนขึ้นไป เช่น ดาราศิลปินที่มีชื่อเสียง นักแสดง นักดนตรี นักกีฬา ฯลฯ ซึ่งมักมีอิทธิพลอยู่ในเรื่องที่หลากหลาย เช่น แฟชั่น การแสดงความคิดเห็น และการสนับสนุนแบรนด์
2. Macro Influencers
เป็น Influencers ที่มีจำนวนผู้ติดตามระดับกลาง ระหว่าง 10,000 – 500,000 คน ซึ่งมักเน้นเนื้อหาในกลุ่มที่เฉียบพลัน และน่าสนใจ เช่น บล็อกเกอร์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องเสื้อผ้า อาหาร ท่องเที่ยว ฯลฯ
3. Micro Influencers
เป็น Influencers ที่มีจำนวนผู้ติดตามระหว่าง 1,000 – 10,000 คน ซึ่งมักมีความชุดชันในกลุ่มเป้าหมายที่เฉียบพลัน และมีความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้ติดตามที่เข้าใจ และกันแลกเปลี่ยนเนื้อหา เช่น นักท่องเที่ยวที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว นักกอล์ฟที่แนะนำเทคนิคการเล่น หรือมีความเชี่ยวชาญในสาขาอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
4. Nano Influencers
เป็น Influencers ที่มีจำนวนผู้ติดตามน้อยที่สุด ระหว่าง 1 – 1,000 คน ซึ่งมักเป็นบุคคลที่มีความสามารถในกลุ่มเฉพาะที่มีความสนใจพิเศษ เช่น ครูสอนเทคนิคการเรียน สาวกสุขภาพที่แนะนำการออกกำลังกาย หรือพ่อแม่ที่แชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการเลี้ยงลูก
5. Microcelebrities
เป็น Influencers ที่มีความนำไปสู่กลุ่มผู้ติดตามเป้าหมายที่มีพื้นที่แขนงกว้าง มีจำนวนผู้ติดตามไม่มากนัก แต่มีส่วนร่วมสูง เช่น ผู้เขียนบทความ นักแต่งเพลง นักออกแบบ ฯลฯ ซึ่งมักมีผู้ติดตามในกลุ่มเฉพาะที่มีความสนใจในด้านนั้นๆ

และนอกจากการแบ่งตามจำนวนผู้ติดตามแล้ว ยังสามารถแบ่งประเภทของ Influencers ตามลักษณะคอนเทนต์ที่นำเสนอได้ 8 ประเภทดังนี้
1. Lifestyle Influencers
เป็น Influencers ที่เน้นการแสดงความเป็นตัวเองและการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การแชร์ความสุขในชีวิตประจำวัน การแนะนำเคล็ดลับการดูแลสุขภาพ การแสดงความรักต่อครอบครัว หรือการเดินทางและการท่องเที่ยว
2. Beauty Influencers
เป็น Influencers ที่เน้นในด้านความงาม เช่น การแนะนำเคล็ดลับดูแลผิวพรรณ การแนะนำเครื่องสำอาง การทดสอบและรีวิวผลิตภัณฑ์ความงาม หรือการแสดงทริคและเทคนิคในการแต่งหน้า
3. Fashion Influencers
เป็น Influencers ที่เน้นในด้านแฟชั่น และสไตล์การแต่งตัว เช่น การแนะนำเสื้อผ้า รองเท้า และแนวโมดา เทรนด์ใหม่ ๆ การแสดงวิธีการผสมผสานเสื้อผ้าและแฟชั่น หรือการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแฟชั่น
4. Fitness Influencers
เป็น Influencers ที่เน้นในด้านสุขภาพและการออกกำลังกาย เช่น การแนะนำกิจกรรมการออกกำลังกาย แนะนำโปรแกรมออกกำลังกาย การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอาหารเสริมและอาหารเพื่อสุขภาพ หรือการแนะนำวิธีการบำรุงร่างกาย
5. Parenting Influencers
เป็น Influencers ที่เน้นในด้านการเลี้ยงลูก เช่น การแชร์ประสบการณ์การเลี้ยงลูก การแนะนำผลิตภัณฑ์เลี้ยงลูก การแสดงความรักต่อลูก หรือการแนะนำกิจกรรมที่เหมาะสมสำหรับเด็ก
6. Travel Influencers
เป็น Influencers ที่เน้นการเดินทางและการท่องเที่ยว เช่น การแชร์ประสบการณ์การเดินทาง การแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับที่พัก หรือการแนะนำแพ็กเกจท่องเที่ยว
7. Food Influencers
เป็น Influencers ที่เน้นในด้านอาหาร เช่น การแนะนำร้านอาหาร การสร้างสูตรอาหาร การแสดงวิธีการทำอาหาร การรีวิวร้านอาหารหรืออาหารที่น่ากิน
8. Tech Influencers
เป็น Influencers ที่เน้นในด้านเทคโนโลยี เช่น การรีวิวและแนะนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอุปกรณ์เทคโนโลยี หรือการแนะนำเทคนิคในการใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ